วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

ประวัติการใช้หนังสัตว์

ประวัติความเป็นมาการใช้หนังสัตว์

         สวัสดีครับ วันนี้ผมเขียนบล๊อกเป็นครั้งแรก ครับ บทความที่เขียน จะเกี่ยวกับเครื่องหนัง โดยเฉพาะครับ เพราะโดยส่วนตัวชื่นชอบงานหนัง  ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด ฯลฯ ผมว่างานที่ทำมาจากหนังสัตว์ มันสวยงาม ทนทาน คลาสสิค  และดูไม่ตกยุคตกสมัยด้วย แม้ว่ามนุษย์เรานั้นใช้หนังสัตว์มาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณแล้วก็ตาม

มนุษย์ยุคหินเก่า ( Neanderthal Man )

         มาดูกันครับ ว่าเครื่องหนังที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนี้ กำเนิด หรือ แรกเริ่มเดิมทีนั้นมาจากไหน สำหรับหลักฐานที่ว่า เราใช้เครื่องหนังมาตั้งแต่เมื่อไร นั้นไม่ปรากฏชัดเจนนะครับ แต่ว่ากันว่า ตั้งแต่มนุษย์เรา เริ่มจะเหมือนคนเช่นทุกวันนี้ จะว่ายังไงดี คือตั้งแต่มนุษย์เรามีขนที่สั้นลง และจากเดินสี่ขา มาเป็นสองขา กระดูกสันหลังตั้งตรงขึ้น เราก็เริ่มจะใช้เครื่องหนังกันแล้วครับ ก่อนอื่นเริ่มท้าวความความเป็นมาของมนุษย์เราก่อนนะครับ 

         นักวิชาการเกี่ยวกับมนุษย์สาขาต่างๆ สรุปความเห็นตรงกันว่าทวีปแอปริกาคือถิ่นกำเนิดของมนุษย์มนุษย์ในยุคแรกๆ ที่พบหลักฐานคือ มนุษย์วานร กล่าวกันว่า มนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์สกุลลิงใหญ่ (Ape) เมื่อประมาณ 4 ล้านปีมาแล้ว และเริ่มลงมาเดินสองขาที่เราเรียกว่า ออสตราโลพิเธคัส (Australopithecus) และต่อมาได้วิวัฒนาการมาเป็นโฮโม แฮบิลิส (Homa Habilis) หรือมนุษย์ที่รู้จักใช้เครื่องไม้เครื่องมือ 2.5 ล้านปีมาแล้ว) และพัฒนาต่อมาเป็นโฮโม อีเรคตัส (Homo Erectus) หรือมนุษย์ที่ยืนตัวตรง 1.5-2 ล้านปี) และวิวัฒนาการต่อมาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน คือ โฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ (Homo Sapiens Sapiens หรือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดยิ่ง) เมื่อประมาณ 1-2 แสนปีที่ผ่านมา มีบทความนึงอธิบายวิวัฒนาการมนุษย์ได้ดีครับ วิวัฒนาการมนุษย์

         การดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคโบราณนี้ หรือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์จะใช้ชีวิตแบบเร่ร่อนอาศัยการล่าสัตว์โดยอพยพไปตามฝูงสัตว์และแสวงหาพืชผักกินเป็นอาหาร เป็นหลัก โดย สัตว์ที่ล่าได้จะนำเนื้อมาเป็นอาหาร และ หนังสัตว์มาเป็นเครื่องนุ่งห่ม ยังไม่ปรากฏว่ามีการฟอกหนังสัตว์ใช้ เพราะสมัยนั้นยังไม่มีอารยธรรมหรือวัฒนธรรมไม่ค่อยจะดีนัก การใช้งานหนังสมัยนั้นจะเป็นการลองผิดลองถูก เพราะสัตว์ที่ล่ามาได้จะนำมาเป็นอาหาร  หนังสัวต์ที่นำมาใช้งานยังเป็นหนังที่แข็งอยู่  โดยจะทำการถลกหนังจากสัตว์ที่ตายแล้ว จากนั้นทำการขึงหนัง

หนังดิบที่ไม่ผ่านการฟอก

กางออกตากแดด ตากลม ตากน้ำค้าง หนังที่ได้ก็จะมีลักษณะดังภาพด้านบน หนังสัตว์ถูกใช้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอีกหลายยุค ผู้เขียนเองก็ไม่มีความรู้มันมียุคอะไรบ้าง 555 จากยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็คือ ยุคหินและยุคโลหะ ก็ปรากฏหลักฐานว่า มีการใช้เครื่องหนังเรื่อยมา ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ดังปรากฏในสัญลักษณ์หรือตัวอักษรโบราณของอียิปต์ บนป้ายหินเก่าแก่อายุประมาณ 5,000 ปี ในนั้นระบุว่า หนังสัตว์ถูกใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ผ้าห่ม ในระยะแรก และ อีกทั้งยังพบว่าเครื่องหนังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในที่ฝังศพของอียิปต์ที่อายุราว 3,000 ปีเศษ มีสภาพสมบูรณ์ดีพร้อม โดยเฉพาะ รองเท้าม๊อกกาซีน 


 ในรูป ไม่ใช่รองเท้าม๊อกกาซีนของอียิปต์นะครับ เนื่องจากผู้เขียนหารูปไม่เจอครับ 555 ข้อมมูลเอามาจากในหนังสือนะครับ เดี๋ยวจะอ้างอิงในตอนท้ายๆ รูปนี้คือหนึ่งในรองเท้าหนังที่เก่าแก่ที่สุด นักโบราณคดีขุดเจอที่ถ้ำแห่งหนึ่งในประเทสอาร์เมเนีย รองเท้าคู่นี้นักวิจัยบอกว่ามันทำด้วยหนังวัวเพียงชิ้นเดียว เจาะรูร้อยด้วยเชือก ทำให้พอดีกับเท้าผู้สวมใส่ ใน size ประมาณเบอร์ 37 หรือเบอร์ 7 แบบอเมริกัน ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ด้วยใช้เทคโนโลยีธาตุคาร์บอน 14 (งงไม่รู้ตรวจสอบยังไง) คู่นี้น่าจะเป็นรองเท้าหนังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีอายุประมาณ 5,500 ปี ยุคนี้น่าจะอยู่ใน ยุคโลหะ แล้ว มนุษย์ยุคโลหะเริ่มมีอายธรรม มีสมองใหญ่ขึ้นรู้จักปรับตัว เริ่มทำการเกษตร ตัวอย่างเช่นรองเท้าคู่นี้แหละครับ ที่มนุษย์รู้จักปรับตัว หาอะไรมาห่อหุ้มเท้าเพื่อป้องกันเท้าตัวเองจากหินคมๆ หรือจากธรรมชาติอื่นๆ 

นักรบจีนโบราณยุคแรก

  จากมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้ใช้หนังเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เช่นใช้หนังสัตว์เพื่อ ผลิตเสื้อผ้า สร้างที่พักอาศัย พรม หรือ แม้กระทั่งเครื่องตกแต่งสมัยโบราณครับ เช่นผู้หญิงสมัยอียิปต์โบราณจะได้ขนสัตว์ตอบแทนเป็นรางวัลแทนเครื่องประดับของพวกเธอครับ มนุษย์เราใช้หนังสัตว์เป็น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ภาชนะบรรจุของเหลว ทำเป็นเรือก็ทำมาแล้วครับ ต่อมาก็นำหนังสัตว์มาเป็นเครื่องเทียมม้า ดังเห็นได้จากกำเนิดกระเป๋าแบรนด์หรู ของฝรั่งเศส "Hermes" ก็กำเนิดมาจากเครื่องเทียมม้านี่แหละครับ หนังสัตว์ยังถูกใช้ทำเป็นชุดเกราะสำหรับป้องกันตัวเองเมื่อมีภัยคุกคามต่างๆ เข้ามากร้ำกราย ทราบมั้ยครับว่าทหารหลายประเทศทั่วโลกเช่นทหารโรมัน ทหารมองโกล จีน และอีกหลายประเทศ สมัยก่อนเสื้อเกราะของพวกเขาคือเสื้อหนังสัตว์ที่มีความหนักและความหนาเป็นอย่างมาก แต่ในยุคหลังๆ จะมีพวกโลหะมาผสมด้วย แต่ก็ยังมีหนังสัตว์เป็นส่วนประกอบด้านในครับ ในพงศาวดารจีนเองยกย่องว่า "เสื้อเกราะที่ดีที่สุดคือเสื้อเกราะที่ทำมาจากหนังแรด"


นักรบมองโกล

ภาพขวาด้านบนเป็นนักรบจีนโบราณ เสื้อเกราะจะเป็นหนังตัดเป็นชิ้นๆแล้วเย็บร้อยใส่กัน ภาพซ้ายด้านล่างนักรบมองโกล หลังๆ จะมีโลหะพวกสำริด มาเป็นส่วนประกอบด้วย

มายุคหลังๆ คือ ยุคประวัติศาสตร์ มันก็แบ่งเป็น 4 ยุค คือ ยุคโบราณ ยุคกลาง ยุคสมัยใหม่ และ ยุคปัจจุุบัน เครื่องหนังก็ยังเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของมนุษย์เรื่อย มา คือ การทำเป็นเครื่ีองนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ว่ากันว่างานเครื่องหนังมาเจริญรุ่งเรือง ถึงขีดสุดในยุคกลาง ( ค.ศ.476 - 1453 ) หรือ ยุคมืด ที่ชาวยุโรปเรียกกัน ตามประวัติศาสตร์โลกสากล น่าแปลกใจนะครับ ยุคนี้ เป็นยุคที่อารยธรรมและความเจริญหยุดชะงักเพราะเป็นยุคที่ งานหนังได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง มีผลทำให้อาชีพช่างหนังเจริญ ถึงขั้น มีการรวมตัวกันจัดตั้งสมาคมช่างหนังขึ้น เพื่อประโยชน์ของกันและกัน ตลอดจนรักษามาตรฐานของหนังและฝีมือมาแล้วตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ยุคกลางนึกภาพง่ายๆครับ หนังฮอลลีวูด หลายเรื่องเอาเรื่องราวของผู้คนในยุคกลางมาสร้างเป็นภาพยนต์ เพื่อให้นึกภาพง่ายนะครับ  เช่นหนังเรื่อง " Robinhood " (โรบินฮูด ) หรือเรื่อง "A KNIGHT' TALE ( อัศวินพันธ์ร็อค ) 



คนอเมริการในยุคต้นอพยพไปอยู่ถิ่นใดมักจะเสาะหาและพาช่างหนัง และช่างฟอกหนังไปกับพวกเขาด้วย เพื่อทำเครื่องหนังจำพวกรองเท้า เสื้อแจ๊คเก็ต กางเกงขี่ม้า อานม้า เครื่องเทียมม้า เข็มขัด และอื่นๆ จำนวนมาก ดังเราจะคุ้นกันดีในหนังที่เกี่ยวกับพวก Cowboy
            ยิ่งเขียน ยิ่งยาวครับ เอาเป็นว่า มนุษยชาตินั้นผูกพันธ์กับเครื่องหนังมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ จนมาถึงสมัยยุคปัจจุบัน สมัยก่อนเป็นการใช้งานหนังดิบ หรือหนังที่ยังไม่ผ่านการฟอก มาถึงช่วงยุคกลาง งานช่างหนัง และช่างฟอกหนังเจริญที่สุด แต่มีหลักฐานว่า ชนเผ่าฮิบรู คือชนชาติแรกที่คิดค้นวิธีการฟอกหนังจากพืชได้ (เปลือกต้นโอ๊ค) หรือ "ฝาด" นั่นเอง ซึ่งจะเขียนบทความเกี่ยวกับหนังฟอกฝาดในคราวหน้านะครับ วิธีที่ชาวเอสกิโมใช้กันมาช้านานในการฟอกหนังคือ การถูด้วยไขมันสัตว์บนผิวหนังของสัตว์ จะทำให้หนังนั้นอ่อนนุ่ม เครื่องหนังที่ใช้กันในยุคใหม่นี้ วิวัฒนาการมาจากสมัยโบราณ โดยการค้นพบ ลองผิดลองถูกของผู้คนสมัยนั้น มาถึงสมัยใหม่ มีเทคโนโลยี และนวัตรกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เครื่องหนังสัตว์นั้น มีการพัฒนา ที่ไม่หยุดเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนคิดว่า งานหนังนั้นมีเสน่ห์ และ เอกลักษณ์ในตัวของมัน ยิ่งดูยิ่งสวยและคลาสสิค แต่ผมชอบที่สุดเห็นจะเป็นความคงทน ซึ่งถ้ารักษาดีๆแล้วล่ะก็ เครื่องหนังนั้น จะอยู่กับเราตลอดช่วงชีวิตเลยทีเดียวล่ะครับ เจอกันบทความหน้านะครับ ขอบพระคุณทุกท่าน ที่เข้าแวะอ่านและเยี่ยมชม บล๊อกของผมครับ ^^

Good luck ^^